เทียนในห้องถูกดับลงจนเหลือเพียงเล่มเดียว หากแต่แสงสีนวลยามต้องใบหน้าอ่อนเยาว์นั้นกลับขับให้อีกคนชวนมอง ดวงตากลมโตสีท้องฟ้ายามราตรีหลุบลงมองพื้นเบื้องล่างเหมือนมันช่างมีบางสิ่งดึงดูดใจ ทั้งที่เขานั้นชอบและหลงใหลประกายวิบวับดุจดาราในดวงตาคู่นั้นจนอยากจะจ้องมองนาน ๆ แต่คนตัวเล็กกลับเอาแต่หลบหน้าราวกับตัวเขานั้นเป็นสัตว์ป่าดุร้ายที่หมายคร่าชีวิต ฝ่ามืออุ่นโอบประคองดวงหน้าของคนตัวเล็กกว่าให้เงยขึ้นสบสานกับดวงตาเรียวรีสีน้ำตาลที่เชิดขึ้นของตน รอยยิ้มอ่อนโอนถูกประดับขึ้นบนใบหน้าที่ใคร ๆ ต่างชมว่ามันช่างสมบูรณ์แบบและพาให้หัวใจสั่นไหวหากจ้องมองนานเกินไป แต่กลับมีเพียงไม่กี่คนบนแผ่นดินนี้ที่มีโอกาสได้มองพระพักตร์ของเจ้าเหนือหัวในระยะห่างเพียงลมหายใจกั้น ก่อนระยะห่างอันน้อยนิดนั้นจะถูกทำลายลงเมื่อลมหายใจอุ่น ๆ รินรดปรางแก้มนวล พร้อมกับความนุ่มหยุ่นที่ทบทับลงมาปิดทางออกของเสียง สัมผัสอ้อยอิ่งคล้ายกับจะหลอกล่อให้คนไม่ประสายอมคล้อยตาม ไม่มีการรุกล้ำล่วงเกินไปมากกว่านั้น เพียงความอบอุ่นซ่านที่แผ่ไปทั่วยามพระหัตถ์ขององค์ราชาเลื่อนลงกรีดไปตามรอยแยกของชุดผ้าเนื้อดีที่สวมทับอยู่บนเรือนร่าง ความเย็นเยียบต้องผิวเนื้อในตอนที่อาภรณ์บนกายตกลงตามแรงโน้มถ่วงจนเผยให้เห็นช่วงคอและไหล่บอบบาง ริมฝีปากอุ่นกดจูบเบา ๆ ข้างไหล่มน ปลายนิ้วหัวแม่มือไล้วนไปบนผิวเนียนลื่นมือ ความสั่นเทาคล้ายหวาดกลัวในคราแรกเหมือนจะสงบบ้างแล้วเมื่อฝ่ามือที่ประสานเกร็งอยู่ตักเล็กคลายออกจากกัน ความอุ่นร้อนไล่จากลาดไหล่ขึ้นไปยังซอกคอ กลิ่นหอมเจือจางเฉพาะตัวพาให้ปลายจมูกรั้นฝังลงเชยชมจนเจ้าของเรือนร่างบอบบางต้องเอียงหลบด้วยความไม่คุ้นเคย แผ่นหลังเล็กถูกดันจนสัมผัสกับฟูกที่นอนซึ่งถูกปูไว้อย่างเรียบร้อย พร้อมกับร่างสูงโปร่งที่โน้มกายลงมาทาบทับบดบังแสงเทียนหนึ่งเดียวในห้อง แต่กระนั้นคนตัวเล็กก็ยังมองเห็นดวงตาสีน้ำตาลที่จ้องมองมายังร่างกายของตัวเอง เปลือกตาบางปิดลงในตอนที่คนเบื้องบนโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ริมฝีปากถูกครอบครองอีกครั้ง หากแต่ปลายลิ้นชื้นกำลังแตะสัมผัสอย่างร้องขอเพื่อแทรกผ่านรอยแยกเข้าไปด้านใน การปลอบประโลมอย่างใจเย็นของคนมากประสบการณ์นั้นสัมฤทธิ์ผลในไม่นานเมื่อกลีบปากอิ่มเผยอรับความซุกซนของอีกคนเข้ามาแต่โดยดี และเพราะคนตัวเล็กกว่าไม่รู้จะทำอย่างไรจึงได้แต่ครางอือเมื่อถูกรุกไล่จนลมหายใจแทบขาดห้วง มือเล็ก ๆ เผลอขยำกับฉลองพระองค์เพื่อระบายความรู้สึกความรู้สึกที่ไม่เคยได้รับ เขาถูกปล่อยให้เป็นอิสระเพียงครู่ก่อนที่คนเบื้องบนจะเริ่มป้อนจูบแบบเดียวกันในอีกหลายครั้งจนริมฝีปากอิ่มสวยขึ้นสีแดงจัด หากเมื่อลืมตาขึ้นมองภาพตรงหน้าลมหายใจของคนตัวเล็กกลับต้องสะดุด ดวงตาของคนเบื้องบนแสดงออกถึงความต้องการอย่างชัดแจ้ง จนทำได้เพียงเบือนหน้าหนีไปอีกทางในตอนที่รู้สึกว่าเสื้อผ้าทั้งหมดกำลังถูกปลดเปลื้องออกจากกายพร้อมกับชุดของอีกคนที่ถูกโยนไว้ข้างกัน สัมผัสร้อนชื้นลากไล้บนผิวเนื้อพร้อมกับฝ่ามือที่เค้นคลึงไปทั่วร่าง ความอ่อนไหวช่วงอกถูกแตะต้องจนเผลอหลุดเสียงอันน่าอาย และยิ่งหนักขึ้นเมื่ออีกคนเริ่มกัดกินมันราวกับเป็นของหวานชั้นเลิศ มือเล็กยกขึ้นปิดปากตัวเองเพื่อซ่อนเสียงคราง แต่กลับถูกดึงรั้งออกมาโดยเจ้าของฝ่ามือหนา น้ำเสียงทุ้มนุ่มกระซิบเบียดกกหูบางด้วยประโยคที่ทำให้คนฟังหน้าขึ้นสี “อย่าทำแบบนี้…ข้าอยากได้ยินเสียงเจ้านะจงฮยอน” มือเล็กถูกย้ายไปวางบนฟูกที่นอนแทนเมื่อไม่อาจขัดรับสั่ง เสียงครางลื่นหูดังก้องทุกครั้งที่จุดอ่อนไหวบนร่างกายถูกสัมผัส นิ้วทั้งห้าขยุ้มไปบนผืนผ้าจนยับยู่ หากแต่นี่เป็นแค่เพียงการเริ่มต้นเท่านั้น เมื่อของจริงนั้นต่อจากตอนที่เอวคอดถูกยกขึ้นจากฟูกนุ่ม ความอุ่นชื้นไล้วนบนหน้าท้องและย้ำสัมผัสตรงแอ่งสะดือ ก่อนที่คนตัวเล็กจะสัมผัสถึงความอบอุ่นที่กอบกุมตัวตนของเขาไว้แล้วลูบไล้ไปมา เสียงหวีดครางดังขึ้นราวกับจะขาดใจเมื่อคนมากประสบการณ์กำลังปรนเปรอให้เขาจนหยาดหยดของความต้องการไหลปริ่มส่วนปลาย เรียวขาถูกแยกให้กว้างออกก่อนที่อีกคนจะทำในสิ่งที่คนตัวเล็กแทบหยุดหายใจอีกรอบ ตัวตนของเขาถูกครอบครองด้วยริมฝีปาก ความอ่อนนุ่มโอบล้อมแล้วรูดรั้งสานต่อความต้องการจนกระทั่งคนด้อยประสบการณ์ไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุดในเวลาไม่นานนัก คราบขุ่นขาวถูกกวาดออกจากมุมปากลวก ๆ คนตัวเล็กรู้สึกถึงสัมผัสอุ่นอวลที่แตะไปตามโคนขาด้านใน ก่อนที่สะโพกของเขาจะถูกยกขึ้นวางบนหน้าขาแข็งแรงของอีกคน ปลายนิ้วชุ่มชำแรกเข้าไปยังช่องทางอ่อนนุ่ม เจ้าของร่างเล็กกรีดร้องออกมาราวกับถูกแยกร่าง แม้จะพยายามใจเย็นสักแค่ไหนแต่กำแพงของครั้งแรกก็หนักหนาสำหรับร่างบอบบาง จูบอ่อนโยนพยายามปลอบประโลมคนตัวเล็ก น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหลปริ่มหางตาถูกเช็ดออกอย่างอ่อนโยน การเตรียมพร้อมค่อย ๆ ดำเนินต่อไปจนคิดว่าอีกคนน่าจะพร้อมแล้วเมื่อปลายนิ้วนั้นสัมผัสเข้ากับจุดที่ทำให้เจ้าของน้ำเสียงแหบพร่าครางออกมาอย่างน่าฟัง มันช่างกระตุ้นอารมณ์ดิบในกายจนแทบทนไม่ไหว ความต้องการอันร้อนแรงค่อย ๆ แทรกตัวเข้าไป พร้อมกับเรียกขาที่ถูกแยกให้กว้างออก มองเห็นมือเล็กขยุ้มฟูกนุ่มอย่างน่าสงสาร พร้อมกับริมฝีปากที่ขบเข้าหากัน ปลายนิ้วคลึงเบา ๆ ให้ริมฝีปากนั้นคลายออกแล้วแทนที่ด้วยจูบอ่อนโยนหวังให้อีกคนผ่อนคลาย แม้ตัวเขาเองนั้นอึดอัดจนแทบทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน ผ่านไปไม่นานนักทุกอย่างดูจะเข้าที่เข้าทางจนเขาสามารถขยับร่างได้ดังใจโดยมีท่อนขาเรียวเกี่ยวกระหวัดรอบเอวไม่ห่าง เสียงคำรามต่ำในลำคอบ่งบอกถึงความพอใจเมื่อตัวตนของเขาถูกความอ่อนนุ่มของคนตัวเล็กโอบอุ้มไว้ในกาย ฝ่ามือหนาคว้ามือเล็กขึ้นวางบนลาดไหล่พลางกระซิบเบา ๆ บดเบียดข้างใบหู “จะจิก จะข่วนยังไงก็ได้…ข้าไม่ว่า” สิ้นเสียงชวนฟัง ปลายนิ้วเล็ก ๆ ก็ฝังลงบนผิวเนื้อจนเป็นรอย ความลึกและแรงที่ถูกส่งเข้ามาทำเอากายบางสั่นไหวไปตามแรงกระแทก มันทั้งทรมานและรู้สึกดีในคราเดียวกัน ความอบอุ่นยังถูกถ่ายทอดให้แก่กันจนกระทั่งถึงปลายยอดแห่งความปรารถนาพร้อมเสียงหอบหายใจที่ดังก้องภายห้องแห่งนี้ สิ่งที่จงฮยอนไม่คาดคิดมาก่อนก็คือการที่คนเบื้องบนคว้าผ้าขึ้นมาเช็ดทำความสะอาดคราบต่าง ๆ ให้กับเขา มือเล็กรีบคว้าข้อมือใครอีกคนไว้แล้วเอ่ยขอให้หยุดการกระทำ “กระหม่อมควรจะทำมันเองพะย่ะค่ะ” “ข้าเป็นคนทำให้ตัวเนื้อเจ้าเปรอะเปื้อน เรื่องแค่นี้ข้าไม่ถือหรอก” สัมผัสของผืนผ้ายังคงไล้ไปตามผิวเนื้อจนความเหนอะหนะถูกขจัดออกไป คนตัวเล็กสัมผัสถึงความอบอุ่นที่จรดบนขมับชื้นเหงื่อ ก่อนที่ร่างของเขาจะถูกรั้งเข้าไปในวงแขนแข็งแรงจนใบหน้าแทบฝังกับแผ่นอกของคนที่ได้ชื่อว่าเจ้าแผ่นดิน ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหยาดน้ำตาของจงฮยอนถึงไหลออกมาโดยไร้เสียงสะอื้น แต่อีกคนก็รับรู้ได้เพราะความชื้นที่เปื้อนบนแผ่นอกเปล่าเปลือยของตน “เจ้าไม่ได้เต็มใจมาเป็นสนมของข้าสินะ” สุรเสียงทุ้มนุ่มตรัสถามพร้อมกับพระหัตถ์อบอุ่นที่พยายามเช็ดหยาดน้ำตาให้คนในอ้อมกอด คนตัวเล็กส่ายหน้าไปมาพร้อมกับกล่าวปฏิเสธออกมา “กระหม่อมไม่ได้คิดเช่นนั้นพะย่ะค่ะ” “แล้ว…เจ้าร้องไห้ทำไม” องค์ราชาจ้องมองประกายวิบวับที่ต้องแสงไฟริบหรี่ของเทียนเล่มน้อย ทั้งที่ดวงดาวในตาของคนตัวเล็กช่างงดงามแต่กลับแฝงไปด้วยความโศกเศร้า พระองค์รู้ดีว่าหลายคนที่เข้ามาในวังแห่งนี้อาจไม่ได้เต็มใจนักแต่ถูกบังคับมาเพื่อสร้างอำนาจให้วงศ์ตระกูล และจงฮยอนคงเป็นหนึ่งในนั้นถึงได้มีท่าทีหวาดกลัวเขาเสียเหลือเกิน… “กระหม่อมแค่คิดถึงท่านแม่…” คำตอบนั้นทำเอาองค์ราชาระบายยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว มันไม่แปลกอะไรเมื่อจงฮยอนมีอายุเพียงแค่ 16 ปี การต้องจากบุพการีมาอยู่ในวังที่ทั้งกว้างใหญ่และเต็มไปด้วยการแก่งแย่งย่อมทำให้รู้สึกว้าเหว่เป็นธรรมดา ฝ่ามือหนาลูบเบา ๆ บนกลุ่มผมสีดำสนิทลื่นมือพร้อมกับจรดริมฝีปากบนหน้าผากให้ความอบอุ่นขับกล่อมคนตัวเล็กเข้าสู่ฝัน “ถ้าเจ้าได้ตำแหน่งพระสนมแล้วก็สามารถเชิญท่านแม่มาหาในวังได้เสมอ แต่ตอนนี้นอนเถอะนะ..”
0 Comments
|
Author#2U - TVXQ ArchivesCategories |